สาวรำวง
อายุสิบห้าได้มาเป็นสาวรำวง
มาใส่กระโปรงวับวับแวมแวม
ไฟสลัวมัวเหมือนคืนเดือนแรม
อะร้าแอร่มอยู่บนฟลอร์เต้นรำ
เราเกิดมาเป็นคนต้อยต่ำ
กระด่างกระดำดั่งเม็ดดินเม็ดทราย
สาวน้อยใจกล้าต้องมาเป็นสาวรำวง
นั่งตีคิ้วโก่งรอบัตรโค้งจากชาย
ปากพูดจาขออย่ามากล้ำกราย
นิดเดียวพอได้อย่ามากไปนะพี่จ๋า
โปรดมองฉันเป็นแค่เพียงอาหารตา
เห็นใจเถิดหนา
คู่ขาเต้นรำวง
มีผู้เฒ่ากำลังเฝ้ารอ
ทั้งแม่และพ่อคอยเฝ้ารอใจบุญหนุนส่ง
จึงปล่อยลูกสาวที่รักมาเป็นสาวรำวง
จึงปล่อยลูกสาวที่รักมาเป็นสาวรำวง
ก็คงเข้าใจแล้วว่า
ไยสาวใจกล้ากระโดดขึ้นบนเวที
กฐินผ้าป่าทั้งงานวัดงานโยม
มาแอ่วมาห้อมมาเต้นฟ้อนรำวง
หนุ่มใหญ่หนุ่มน้อยเข้ามาโค้งนวลอนงค์
สามช่ารำวงตะบึงฮ่อจนเหงื่อไหล
แต่งสีสันชีวิตชีวาคนบ้านไพร
ชาวนาชาวไร่เป็นสุขใจในงานบุญ
ท้องฟ้าสว่างยามรุ่งอรุโณทัย
เราเริ่มต้นใหม่ยามเมื่อฟ้าราตรี
เปลี่ยนเวียนไปรักน้ำใจไมตรี
ร้อยวันพันปีรับไมตรีอยู่เสมอ
จากคืนนี้คงต้องมีวันพบเจอ
แล้วใครที่เหม่อคราวโบกมืออำลา